ประวัติพระใบฎีกาสมเพชร
หลวงปู่สรวงกับพระอาจารย์สมเพชร
สามเณรสมเพชรเมื่อปี พ.ศ.2525 ได้จำวัดอยู่ที่วัดบ้านโพธิ์ทอง ตำบลละลม
อำเภอขันธ์ ศรีสะเกษในช่วงนั้น พระเณรในวัดต่าง ๆ ที่สังกัดตำบลโสน
ตำบลละลม ต้องไปสอบธรรมสนามหลวงที่โรงเรียนบ้านโสน
ในการไปสอบธรรมสนามหลวงต้องเดินเท้าลัดทุ่งนาไปผ่านบ้านธาตุ
บ้านละลมและเดินทางไปผ่านบ้านตาเนียมขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 6 โมงเช้า
รู้สึกเหนื่อยมากกับการเดินทางจึงเข้าไปพักในศาลากลางหมู่บ้านซึ่งอยู่ติด
ทางที่เดินผ่าน ส่วนสามเณรสมพร และ สามเณรบุญยัง ที่เดินทางไปสอบด้วยกัน
ไม่ยอมพักคงมีแต่สามเณรสมเพชร
เพียงองค์เดียวที่หยุดพักเพราะหิวน้ำมากจึงพักที่ศาลานั้นขณะที่สามเณรสม
เพชรเข้าไปในศาลาไม่มีใครอยู่เลย แต่มีรอยกวาดแผ่นไม้กระดานปูพื้นในศาลา
3-4 แผ่น และกองไฟอยู่ในพื้นดิน มีผ้าขาว และผ้าสบงเก่า ๆวางอยู่
สามเณรสมเพชรเลยนั้งลงพักให้หายเหนื่อยและหาน้ำดื่มแต่ไม่มีน้ำให้ดื่ม
มองออกไปข้างนอกที่เป็นทุ่งนาเห็นหลวงตาแก่ ๆ
รูปหนึ่งอุ้มบาตรยืนอยู่ที่ตอไม้ประมาณ 10 นาทีแล้วท่านก็เดินเข้ามาในศาลา
สามเณรสมเพชรเดินเข้าไปหาหลวงตาหวังว่าจะรับบาตรตามนิสัยของเณร
แต่พอเดินไปถึงก็นั่งคุกเข่าลงกราบหลวงตา
เณรก็เดินเข้าศาลาไปโดยไม่ได้หยุดยืน หรือพูดอะไรเลย ให้เณรกราบเลย
เณรจึงลุกขึ้นแล้วเดินตามหลวงตาไปติด ๆ
เณรได้กลิ่นหอมข้าวในบาตรหลวงตาจึงชะโงกมองดูในบาตรหลวงตาเห็นมีข้าวอยู่
ประมาณ 2 – 3 ทัพพีเห็นจะได้ ข้าวมีสีออกเหลืองแต่มีกลิ่นที่หอมมาก
ทำให้เณรหิวข้าวขึ้นมาทันที เณรจึงถามหลวงตาเป็นภาษาเขมรว่า
“ลุกตาเนาะประอองลุกตา”หลวงตาไม่ได้พูดอะใรตอบเณรเลย
แต่หลวงตาเอามือปั้นข้าวใน บาตรแล้วยื่นให้เณร พูดสั่น ๆ ว่า
“ฮื้อฉันโตว”เป็นคำพูดที่สั้น ๆ
เณรรับเอาข้าวที่หลวงตายื่นให้แล้วฉันตามที่หลวงตาบอก
แปลกมากข้าวไม่มีกับไม่มีเกลือไม่มีน้ำปลาเลยแต่รสชาติของข้าวนั้นดี
มากอร่อยมาก และจากนั้นเณรก็ไม่หิวข้าวอีกเลย
และไม่รู้สึกหิวเลยมันอิ่มอยู่ตลอดเวลาหลายวัน จากวันนั้นที่หลายปีต่อมา
ความรู้สึกที่มีอยู่ ณ วันนั้นก็ไม่หายไปจากความทรงจำของเณรเลย และในปี
พ.ศ.2530 – 2539
หลังจากข้าพเจ้าได้บวชเป็นพระภิกษุแล้วก็ได้พบกับหลวงตาเบ๊าะอีกในนามลู๊กตา
สรวงอยู่ในกระท้อมต่างๆบริเวรเขตอำเภอขุขันธ์ /อำเภอบัวเชด
/อำเภอภูสิงห์/อำเภอขุนหาญ ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา(ไทย เขมร)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น